|
สวัสดีค่ะ จากที่ผู้เขียนได้มีประสบการณ์ในการทำงานมานาน ได้มีโอกาสคลุกคลีกับพนักงานที่จะต้องเข้าทำงานกะ ก็พบว่าผู้ที่ทำงานกะมีปัญหาด้านสุขภาพกันเยอะ และพบว่าตอนเข้ากะวันแรกเหนื่อยมากๆ เพราะต้องมีการปรับตัวก่อน รวมทั้งที่ผู้เขียนได้ไปเป็นวิทยากรสอนหนังสือมาหลายครั้งๆก็พบว่าผู้เรียนมีความสนใจในปัญหาสุขภาพจากการทำงานกะกลางคืนกันเยอะ ก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อจะได้รายละเอียดว่า จริงๆ แล้วการทำงานกะ นี้ มันมีผลกระทบอะไรกับคนที่ทำงานบ้าง ซึ่งเราจะเห็นว่าในหลายๆ อาชีพในปัจจุบันมีคนที่ทำงานเป็นกะ โดยเฉพาะกะกลางคืนกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานในภาคอุตสาหกรรมก็จะเป็นพนักงานในหน่วยการผลิต ตรวจสอบคุณ ภาพผลิตภัณฑ์ และแผนกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภาคบริการอย่างแพทย์ พยาบาล ตำรวจ รปภ. นักจัดรายการวิทยุ ผู้สื่อข่าวและอื่นๆ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ซึ่งปัญหาจากการทำงานเป็นกะ ทำให้เกิดโรคเกี่ยวเนื่องจากการทำงาน (work related disease) เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบจากรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ซึ่งการทำงานเป็นกะในช่วงกลางคืนจะทำให้เวลานอนของผู้ประกอบอาชีพเปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดผลต่อสุขภาพตามมาหลายอย่าง เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง, น้ำหนักขึ้น, นอนไม่หลับ ไม่นับรวมโรคมะเร็ง ทั้งนี้เนื่องจากมันเข้าไปขัดจังหวะการทำงานของนาฬิกาชีวภาพในร่างกาย และฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งผลิตในเวลากลางคืนมีคุณสมบัติกดการเติบโตของก้อนเนื้อ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากการทำงานเป็นกะ อุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการทำงานเป็นกะ ก็มีมากขึ้นเนื่องจากผู้ปฏิบัติงานเมื่อยล้า ช่วงเวลาการนอนไม่ปกติ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานฝืนที่จะทำงาน ขณะที่มีการทำงานกับอุปกรณ์เครื่องจักรก็มีความเสี่ยง ซึ่งมีบางครั้งต้องควงกะ หรือทำงานกะต่อเนื่องกันหลายวันยิ่งทำให้ผู้ปฏิบัติงานเมื่อยล้ามากขึ้น ผู้เขียนเห็นว่าการทำงานกะ ในปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น และมีอุบัติเหตุและการบาดเจ็บจากการทำงานเป็นกะ มีเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรคเกี่ยวเนื่องจากการทำงานที่เพื่อนๆ ที่ทำงานกะเป็นกัน เลยอยากเขียนเรื่องการทำงานกะคะ เรามาดูกันนะคะว่า ผลกระทบจากการทำงานกะมีปัญหาด้านสุขภาพอะไรบ้าง รวมทั้งวิธีการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ทำงานกะคะ
เหตุผลของการทำงานเป็นกะ (Shift Work)
- เหตุผลทางเทคโนโลยี ระบบการผลิตที่ต้องทำเวลายาวนานต่อเนื่อง
- เหตุผลทางเศรษฐกิจ ต้นทุนเครื่องจักร และความต้องการตลาดสูง
- เหตุผลทางสังคมผู้ให้บริการทางการแพทย์ ตำรวจ ไฟฟ้า ประปา ซึ่งเป็นผลต่อคุณภาพชีวิตของคนในสังคม
ผลตอบสนองต่อการทำงานเป็นกะ
- ความเครียด
- ผลต่อระบบ neurophysiological rhythms เช่น อุณหภูมิของร่างกาย อัตราการเผาผลาญอาหาร ระดับน้ำตาลในกระแสเลือด
- ประสิทธิภาพของจิตใจ
- แรงจูงใจในการทำงาน
- เกิดความแปรปรวนใน circadian rhythm เนื่องจากพนักงานต้องทำงานในขณะที่ร่างกายและจิตใจอยู่ในช่วงการนอนหลับ ทำให้วงจรการหลับตื่นไม่สอดคล้องกับวงจรอื่น ๆ ของร่างกาย(อุณหภูมิ,ฮอร์โมน) เกิดวงจรชีวภาพที่เรียกว่า desyn-chronization
ผลกระทบต่อการทำงานเป็นกะ
โดยเฉพาะกะกลางคืน ร่วมกับความไม่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตปกติจึงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน,ความปลอดภัยในการทำงาน,สุขภาพของพนักงาน รวมถึงการใช้ชีวิตครอบครัวและสังคมของพนักงานที่ทำงานเป็นกะ
- ผลต่อการนอน นอนไม่หลับ หลับยาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการนอน มักแก้ปัญหาด้วยยานอนหลับ เวลามาทำงานก็มักกระตุ้นด้วยกาแฟ เสพยาบ้า เป็นต้น
- ผลต่อความอยากอาหาร เบื่ออาหาร ท้องอืดหรือท้องผูก มักรับประทานแป้งน้ำตาลมาก ใยอาหารน้อย
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
โรคแทรกซ้อนจากการทำงานเป็นกะ
- Work shift sleep disorder
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด พฤติกรรมการบริโภคไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังการ ความเครียด จึงมักทำให้เกิดไขมันในเลือดสูง
- โรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เป็นผลจากการบริโภคอาหารไม่เป็นเวลา
- Substance Dependence
แนวทางการจัดการในองค์กร
- การคัดเลือกพนักงาน
ควรเลือก พนักงานที่มีความยืดหยุ่นเรื่องการนอนหลับ สุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัวที่ถูกกระตุ้นให้กำเริบด้วยการอดนอน
พนักงานที่ไม่ควรทำงานในระบบกะ ได้แก่บุคคลที่มีประวัติโรคทางเดินอาหาร โรคเบาหวาน โรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ โรคลมชัก โรคซึมเศร้า โรคหัวใจ วัณโรค ติดสุรายาเสพติด
- การตรวจสุขภาพพนักงานสม่ำเสมอ
- การป้องกันสุขภาพ
- การเพิ่มวันหยุดให้พนักงาน เพื่อให้พนักงานมีวันปรกติเพิ่มขึ้น ที่จะให้ circadian rhythm เริ่มใหม่
- การจัดอาหารมื้อดึกที่มีคุณภาพทางอาหาร
- การอนุญาตให้นอนได้ระหว่างทำงานกะกลางคืน เพื่อป้องกันความอ่อนเพลีย และประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัย
- การลดการทำงานกะกลางคืนที่ไม่จำเป็นลง
- การจัดตารางของระบบการทำงานเป็นกะที่เหมาะสม
- ระบบการทำงานเป็นกะควรให้ทำงานกะกลางคืนติดกันน้อยที่สุด
- กะเช้าไม่ควรเริ่มทำงานเช้าเกินไป
- เวลาในการเปลี่ยนกะควรให้ความยืดหยุ่นพนักงาน
- ระยะเวลาของกะควรขึ้นกับเนื้อหาของงาน และกะกลางคืนควรมีระยะเวลาสั้นกว่ากะอื่น
- การทำงานเป็นกะที่ต่อเนื่องควรมีวันหยุดอย่างน้อยต่อเนื่อง 2วัน ในบางสัปดาห์
- ให้หมุนกะไปข้างหน้าจะดีกว่า
- ช่วงเวลาวงจรของกะ ไม่ควรยาวนานเกินไป
- การหมุนเวียนกะควรสม่ำเสมอ
|